ความจำเป็นในการคืนสินค้าให้กับซัพพลายเออร์อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ: การเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพต่ำและไม่สมบูรณ์ การจัดส่งที่ผิดพลาด การสิ้นสุดสัญญา ฯลฯ ไม่สำคัญว่าจะนำไปสู่การปฏิเสธการส่งมอบการดำเนินการจะต้องสะท้อนให้เห็นในบันทึกทางบัญชี
คำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 1
ตรวจสอบว่าสถานการณ์การส่งคืนเกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพที่ไม่เหมาะสมโดยซัพพลายเออร์ตามเงื่อนไขของสัญญาขายหรือไม่ ความจริงก็คือว่าหากมีการจัดส่งสินค้าที่มีคุณภาพตรงเวลาและปฏิบัติตามภาระผูกพันทั้งหมดแล้ว วิธีเดียวที่เป็นไปได้ในการส่งคืนชุดงานคือการขายในลำดับที่กลับกัน ในกรณีของการสมรสจะต้องมีการดำเนินการอื่น ๆ โปรดจำไว้ว่าตาม PBU 5/01 หุ้นขององค์กรที่ได้มาเพื่อขายต่อจะคิดต้นทุนในการรับ อย่างไรก็ตาม ในการขายปลีกสามารถใช้ราคาขายเป็นพื้นฐานในการคำนวณได้
ขั้นตอนที่ 2
ทำบันทึกที่จำเป็นสำหรับการส่งมอบ
ขั้นตอนที่ 3
บันทึกความเป็นจริงของการจัดส่งสินค้าและการก่อหนี้ให้กับซัพพลายเออร์ (Dt 41/2 CT 60)
ขั้นตอนที่ 4
จัดสรรจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับสินค้าที่จัดส่ง (Dt 19/3 Kt 60)
ขั้นตอนที่ 5
สะท้อนมูลค่าของมาร์จิ้นการค้า (Dt 41/2 CT 42)
ขั้นตอนที่ 6
ส่งภาษีหักลดหย่อนได้ (Dt 68 Kt 19/3)
ขั้นตอนที่ 7
ผ่านรายการจำนวนเงินที่ชำระให้กับซัพพลายเออร์สำหรับสินค้าที่จัดส่ง (Dt 60 CT 51)
ขั้นตอนที่ 8
องค์กรค้าส่งใช้รูปแบบที่คล้ายกันโดยมีการแก้ไขเล็กน้อย: แทนที่จะใช้บัญชี 41/2 จะใช้ 41/1 และเนื่องจากไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงส่วนต่างทางการค้า ดังนั้น รายการ "Dt 41/2 Kt 42" คือ ไม่ได้ทำ
ขั้นตอนที่ 9
สะท้อนการคืนสินค้าที่ซื้อ หากเกี่ยวข้องกับการสมรส การดำเนินการจะเป็นดังนี้
ขั้นตอนที่ 10
นำต้นทุนของผลิตภัณฑ์ที่มีข้อบกพร่องไปชำระกับซัพพลายเออร์ (Dt 76/2 Kt 41/1 - ขายส่งหรือ 41/2 - ขายปลีก)
ขั้นตอนที่ 11
ย้อนกลับมาร์จิ้นการค้าของสินค้าที่นำเสนอเพื่อส่งคืน (Dt 76/2 Kt 42)
ขั้นตอนที่ 12
กู้คืนจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่ม (Dt 76/2 Kt 68)
ขั้นตอนที่ 13
ในกรณีที่ถูกปฏิเสธจากผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ คุณต้องสะท้อนถึงการขายต่อตามรูปแบบต่อไปนี้
ขั้นตอนที่ 14
สะท้อนรายได้จากการขายสินค้าให้กับซัพพลายเออร์ (Dt 62 Kt 91/1)
ขั้นตอนที่ 15
ตัดราคาซื้อของสินค้า (Dt 90/2 Kt 41/1)
ขั้นตอนที่ 16
คำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มของสินค้าที่ส่งคืน (Dt 90/3 Kt 68)
ขั้นตอนที่ 17
บันทึกการชำระเงินจากซัพพลายเออร์ (Dt 51 Kt 62)