การให้ยืมกลายเป็นบริการทั่วไปมากขึ้น อันที่จริง เงินกู้ทำให้สามารถซื้อผลิตภัณฑ์ที่ต้องการได้โดยไม่ต้องเลื่อนการซื้อเป็นเวลานาน แต่ในบรรดาโปรแกรมเงินกู้ที่มีให้เลือกมากมาย สิ่งสำคัญคือต้องเลือกสิ่งที่เหมาะกับคุณ
คำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 1
ตัดสินใจว่าคุณต้องการใช้เงินที่คุณจะยืมไปทำอะไร หากคุณกำลังจะซื้อบางอย่าง เช่น รถยนต์หรืออพาร์ตเมนต์ ให้เลือกสินเชื่อเป้าหมาย ดอกเบี้ยมักจะต่ำกว่าเงินกู้อื่นๆ เพื่อให้มีอิสระอย่างเต็มที่ในการใช้จ่ายเงินที่ได้รับ ให้มองหาทางเลือกระหว่างสินเชื่อเงินสด
ขั้นตอนที่ 2
เลือกธนาคารที่ให้เงินกู้ตามเงื่อนไขที่ดีที่สุดสำหรับคุณ ในการทำเช่นนี้ ให้ความสนใจไม่เฉพาะกับอัตราดอกเบี้ยที่ประกาศไว้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการชำระเงินเพิ่มเติมต่างๆ ด้วย ธนาคารบางแห่งเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการออกเงินกู้หรือสำหรับการรักษาบัญชีเงินกู้ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มต้นทุนทางการเงินให้กับคุณ นอกจากนี้ สถาบันการเงินอาจยืนยันการประกันชีวิตและสุขภาพของผู้กู้ ซึ่งสามารถเพิ่มการชำระเงินรายเดือนได้อย่างมาก เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจได้ง่ายขึ้นว่าเงินกู้ใดให้ผลกำไรมากกว่า ธนาคารแห่งรัสเซียจึงกำหนดให้สถาบันการเงินทุกแห่งต้องเปิดเผยค่าใช้จ่ายทั้งหมดของเงินกู้ (PSK) ให้กับลูกค้า อัตราส่วนนี้พิจารณาค่าคอมมิชชั่นและการชำระเงินเพิ่มเติมทั้งหมด ยิ่งมีขนาดเล็กเท่าใด เงินกู้ก็จะยิ่งมีกำไรมากขึ้นเท่านั้น
ขั้นตอนที่ 3
รวบรวมเอกสารที่จำเป็นสำหรับการขอสินเชื่อ เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับเงื่อนไขเครดิตที่ดียิ่งขึ้น ให้เตรียมแพ็คเกจหลักทรัพย์สูงสุด นอกจากหนังสือรับรองรายได้ในรูปแบบ 2NDFL แล้ว ขอแนะนำให้จัดเตรียมเอกสารเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความมั่นคงของสถานการณ์ทางการเงินด้วย อาจเป็นหนังสือเดินทางที่มีตราประทับข้ามพรมแดนต่างประเทศ หนังสือรับรองการเป็นเจ้าของอพาร์ตเมนต์หรือรถยนต์
ขั้นตอนที่ 4
มาที่ธนาคารที่คุณเลือกและกรอกแบบฟอร์มใบสมัครขอสินเชื่อ ให้ข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการจ้างงานและรายได้ของคุณ เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับเงินกู้ที่มีกำไร คุณสามารถระบุว่าเป็นรายได้ ไม่เพียงแต่เงินเดือนในที่ทำงานหลัก แต่ยังรวมถึงแหล่งเงินทุนอื่นๆ ด้วย หากคุณมี ตัวอย่างเช่นอาจเป็นรายได้จากการทำงานนอกเวลาหรือจากการให้เช่าทรัพย์สิน