เมื่อให้ยืมเงิน ต้องแน่ใจว่าได้จัดทำ IOU ที่เขียนด้วยมือของผู้ยืม หรือดีกว่านั้นคือ ข้อตกลงทนายความ แม้ว่าใบเสร็จรับเงินจะมีผลทางกฎหมายเช่นเดียวกัน เชิญพยานสองคนที่จะลงรายละเอียดและลายเซ็นเกี่ยวกับข้อเท็จจริงของการกู้ยืม ไม่จำเป็นต้องระบุดอกเบี้ยที่คุณให้ยืมเงินในใบเสร็จรับเงิน คอลัมน์นี้ไม่ถือว่าอยู่ในกระบวนการไม่ชำระหนี้ รวมจำนวนดอกเบี้ยในยอดหนี้ทั้งหมด
คำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 1
ใบเสร็จรับเงินสำหรับการกู้ยืมเงินจะต้องเขียนด้วยมือของผู้ยืมและไม่พิมพ์บนเครื่องพิมพ์ เฉพาะใบเสร็จรับเงินที่เขียนด้วยลายมือเท่านั้นที่มีผลผูกพันทางกฎหมายเมื่อยื่นคำร้องต่อศาล ใบเสร็จต้องมีรายละเอียดทั้งหมดของผู้กู้ ที่อยู่ จำนวนเงินที่เป็นหนี้ ซึ่งรวมถึงดอกเบี้ย จำนวนเงินจะต้องระบุเป็นตัวเลขและคำและในสกุลเงินที่มีอยู่ในขณะที่ให้กู้ยืม ใส่เครื่องหมายขีด Z ลงในช่องว่างทั้งหมดของใบเสร็จรับเงิน ระบุวันที่ชำระหนี้
ขั้นตอนที่ 2
จดรายละเอียดทั้งหมดของคุณและรายละเอียดของพยาน ลงชื่อและลงวันที่ในใบเสร็จรับเงิน
ขั้นตอนที่ 3
หากเงินไม่คืนให้คุณ ให้ไปศาลพร้อมคำให้การกับ IOU และพยาน
ขั้นตอนที่ 4
การติดต่อหน่วยงานหรือโครงสร้างอื่น ๆ นั้นผิดกฎหมายและมีโทษตามกฎหมาย นอกจากนี้ในกรณีที่ไม่มีการใช้การคุกคามหากหนี้ไม่ได้รับการชำระหนี้ ดำเนินการตามกฎหมายเท่านั้น
ขั้นตอนที่ 5
บ่อยครั้งก็เพียงพอแล้วที่จะพูดคุยกับบุคคลนั้นและให้เวลาเขาพิเศษในการชำระหนี้