ต้นทุนเป็นตัวบ่งชี้ต้นทุนของการผลิตผลิตภัณฑ์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าองค์กรมีต้นทุนการผลิตและการขายหน่วยสินค้าใดหน่วยหนึ่งเป็นจำนวนเท่าใด ผู้บริหารของบริษัทสามารถใช้ตัวบ่งชี้นี้เพื่อระบุประเภทผลิตภัณฑ์ที่แพงที่สุดและแพงน้อยที่สุด รวมทั้งลดต้นทุนการผลิต
มันจำเป็น
- - เครื่องคิดเลข;
- - เอกสารจากซัพพลายเออร์และผู้รับเหมา
- - เงินเดือน
คำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 1
ในการกำหนดต้นทุนของผลิตภัณฑ์เฉพาะ ให้บวกต้นทุนทั้งหมดที่เกิดขึ้นในการผลิต เพิ่มค่าวัสดุ ตัวอย่างเช่น บริษัททำธุรกิจตัดเย็บเสื้อผ้าเด็ก สำหรับการผลิตนั้นได้ซื้อวัสดุ (ผ้า, ด้าย, เข็ม, กระดุม, ซิป) ในจำนวน 20,000 รูเบิล
ขั้นตอนที่ 2
นอกจากวัสดุสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์แล้ว บริษัทยังใช้พลังงานและเชื้อเพลิงซึ่งคุณต้องจ่ายด้วย รวมจำนวนต้นทุนในต้นทุนการผลิต ตัวอย่างเช่น บริษัทใช้ไฟฟ้า 4,000 รูเบิลเพื่อเย็บเสื้อผ้าเด็ก
ขั้นตอนที่ 3
รวมอยู่ในราคาต้นทุนที่จ่ายให้กับแรงงานที่ใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ เพิ่มโบนัส เบี้ยเลี้ยง และเงินช่วยเหลือสังคม ตัวอย่างเช่นในการผลิตเสื้อผ้าเด็กพนักงานมีส่วนร่วมซึ่งมีเงินเดือน 23,000 รูเบิลโบนัสและเบี้ยเลี้ยง 6,000 รูเบิลและเงินช่วยเหลือทางสังคมคือ 7,540 รูเบิล
ขั้นตอนที่ 4
เพิ่มต้นทุนที่เกิดขึ้นในการบำรุงรักษาและซ่อมแซมอุปกรณ์ (ต้นทุนการผลิตทั่วไป) ตัวอย่างเช่น จักรเย็บผ้าใช้สำหรับเย็บเสื้อผ้าเด็ก ค่าบำรุงรักษาซึ่งมีค่าใช้จ่าย บริษัท 8,000 รูเบิล
ขั้นตอนที่ 5
ในต้นทุนหลัก ให้รวมค่าใช้จ่ายในการให้คำปรึกษาและบริการข้อมูล ค่าเสื่อมราคา กล่าวคือ บริการธุรกิจทั่วไป ตัวอย่างเช่น บริษัทใช้จ่าย 3,000 รูเบิลต่อเดือนในการโฆษณา
ขั้นตอนที่ 6
จากนั้นบวกจำนวนเงินทั้งหมดที่ได้รับ ตัวอย่างเช่น 20,000 rubles + 4,000 rubles + 23,000 rubles + 6,000 rubles + 7,540 rubles + 8,000 rubles + 3,000 rubles = 71,540 rubles จำนวนผลลัพธ์จะเป็นต้นทุนการผลิต หากมีวัสดุเหลืออยู่ในคลังสินค้าของ บริษัท ให้ลบจำนวนเงินออกจากราคาต้นทุน
ขั้นตอนที่ 7
หากคุณต้องการคำนวณต้นทุนของหน่วยการผลิตหนึ่งหน่วย ให้หารจำนวนผลลัพธ์ด้วยจำนวนรวมของหน่วยที่ผลิตในช่วงเวลาหนึ่ง