ตั๋วแลกเงิน คือ ตั๋วสัญญาใช้เงินที่เป็นลายลักษณ์อักษรซึ่งผู้สั่งจ่ายตกลงที่จะจ่ายเงินตามจำนวนที่กำหนดให้แก่ผู้ถือตั๋วเงินนั้นสามารถเป็นผู้ถือโดยให้ชำระเงินได้เมื่อเห็น เอกสารมักจะระบุว่าต้องโอนเงินจำนวนเท่าใด
คำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 1
จัดทำตั๋วแลกเงินโดยไม่มีข้อผิดพลาดเฉพาะในกรณีนี้เท่านั้นที่จะถูกต้อง ในกรณีที่มีข้อพิพาท ทนายความจะตรวจสอบว่ามีการร่างเอกสารหนี้ถูกต้องหรือไม่ โปรดทราบว่าใบเรียกเก็บเงินต้องมีลายเซ็นต้นฉบับ ผู้ที่มีลายเซ็นอยู่ในบิลเป็นผู้จ่าย หากลูกหนี้เป็นองค์กร ต้องลงลายมือชื่อของหัวหน้าฝ่ายบัญชีและผู้อำนวยการ การปรากฏตัวของลายเซ็นทั้งสองจะเป็นการยืนยันว่ากรรมการไม่ควรเป็นการส่วนตัว ผู้ดูแลผลประโยชน์จะต้องส่งเอกสารยืนยันสิทธิของเขา สำเนาเอกสารจะต้องอยู่กับผู้ถือใบเรียกเก็บเงิน
ขั้นตอนที่ 2
ติดตามวันหมดอายุของบิลเพื่อไม่ให้หมดอายุ หลักประกันในการรับเงินจากผู้สั่งจ่ายคือแสดงใบเรียกเก็บเงินตรงเวลา ทำความเข้าใจว่าวันครบกำหนดคือเมื่อใด
ขั้นตอนที่ 3
จุดเริ่มต้นสำหรับตั๋วแลกเงินที่เห็นคือวันที่เรียกเก็บเงิน การชำระเงินสามารถทำได้ภายในหนึ่งปี บางครั้งข้อ จำกัด อาจเป็นวันที่ก่อนที่บิลจะไม่ถูกเรียกเก็บเงิน จากนั้นให้นับปีนับจากวันที่ไม่สามารถชำระเงินได้
ขั้นตอนที่ 4
สถานที่ชำระเงินยังระบุไว้ในใบเรียกเก็บเงิน หากไม่ได้ระบุสถานที่ ให้ชำระเงิน ณ สถานที่ที่ร่างใบเรียกเก็บเงินหรือตามพิกัดของลูกหนี้ ผู้ถือตั๋วแลกเงินไม่มีสิทธิ์เรียกชำระเงินในที่ที่ไม่ปรากฏชื่อ การที่ลูกหนี้ปฏิเสธที่จะมาผิดที่อยู่และเบิกเงินจะมีเหตุทางกฎหมาย
ขั้นตอนที่ 5
หากไม่มีใครชำระเงินตามตั๋วแลกเงินที่แสดงตรงเวลา โปรดติดต่อทนายความ ทนายความจะยอมรับร่างกฎหมายเพื่อประท้วงและบังคับให้ลูกหนี้ปรากฏตัวและชำระหนี้ ติดต่อทนายความที่มีตั๋วแลกเงินที่ถูกต้องนั่นคือก่อนหมดอายุภายในหนึ่งปีเมื่อผู้ชำระเงินต้องคืนเงิน
ขั้นตอนที่ 6
ความล้มเหลวในการปรากฏตัวต่อหน้าทนายความเป็นเหตุผลที่ต้องขึ้นศาลเพื่อหาผู้ถือใบเรียกเก็บเงิน ในตั๋วแลกเงิน ทนายความจะแก้ไขค่าเริ่มต้น ศาลต้องประกาศตั๋วแลกเงินที่ถูกต้องสำหรับการชำระเงิน หนี้จะได้รับการชำระคืนโดยผู้ค้ำประกันภายในสามปี