หากองค์กรรวมระบบภาษีแบบง่ายและระบบภาษีเข้าด้วยกันในรูปแบบของ UTII จำเป็นต้องเก็บบันทึกธุรกรรมทางธุรกิจแยกต่างหาก ในการบัญชีแยกต่างหาก จำเป็นต้องกำหนดรายได้และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมประเภทต่างๆ และแยกตัวบ่งชี้ทั่วไปอย่างถูกต้อง
คำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 1
เลือกวิธีการบัญชีแยกต่างหาก วิธีง่ายๆ ในการรักษาคือการเปิดบัญชีย่อยเพิ่มเติมในบัญชีทางบัญชี อีกทางเลือกหนึ่งคือการบันทึกรายได้และค่าใช้จ่ายสำหรับกิจกรรมประเภทต่างๆ ในตารางและข้อมูลอ้างอิงที่แยกจากกัน สามารถใช้ทั้งสองวิธีพร้อมกันได้
ขั้นตอนที่ 2
กำหนดวิธีการที่เลือกไว้ในนโยบายการบัญชีขององค์กรหรือในข้อบังคับท้องถิ่นอื่น ๆ ที่ได้รับอนุมัติจากหัวหน้า ในกระบวนการเก็บบันทึกรายได้จากการขายสินค้า งาน หรือบริการจากกิจกรรมประเภทต่างๆ ให้สะท้อนการรับ แจกจ่ายไปยังบัญชีย่อยที่เหมาะสม
ขั้นตอนที่ 3
พิจารณารายได้จากดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ยืมที่ออกในบัญชีย่อยที่เกี่ยวข้องกับ "ระบบง่าย" (จดหมายของกระทรวงการคลังลงวันที่ 19.02.2009 ฉบับที่ 03-11-06 / 3/36 และลงวันที่ 24.03.2009 ฉบับที่ 03-11-06 / 3 / 74). รวมทั้งรายได้จากการขายสินทรัพย์ถาวรที่นั่นด้วย (หนังสือกระทรวงการคลัง ลงวันที่ 10 ธันวาคม 2553 ฉบับที่ 03-11-11 / 319)
ขั้นตอนที่ 4
เก็บบันทึกรายได้จาก "การใส่ร้าย" ตามเกณฑ์คงค้างตั้งแต่ต้นปีเป็นเงินสด นั่นคือเมื่อได้รับการชำระเงินค่าสินค้า งาน หรือบริการที่ขาย
ขั้นตอนที่ 5
อ้างอิงค่าใช้จ่ายทั้งหมดไปยังบัญชีย่อยที่เหมาะสม หากคุณสามารถระบุได้ชัดเจนว่าระบบภาษีใดที่สอดคล้องกับระบบภาษี หากนำไปใช้กับทั้งสองระบอบพร้อมกัน ให้แบ่งตามสัดส่วนรายได้ที่ได้รับดังนี้
ขั้นตอนที่ 6
กำหนดรายได้จากกิจกรรม "แบบง่าย" ตามมาตรา 249, 250 และ 251 แห่งรหัสภาษีของสหพันธรัฐรัสเซีย คำนวณรายได้จาก "การใส่" โดยการคำนวณส่วนต่างระหว่างจำนวนเงินรวมของรายได้และรายรับจาก "การชำระเงินแบบง่าย"
ขั้นตอนที่ 7
ในกรณีนี้ ไม่รวมรายรับที่ค้างชำระทั้งหมดจากรายได้ "ที่กำหนด" เนื่องจากจะบันทึกเป็นเงินสด รวมจำนวนเงินที่เบิกจ่ายจริงที่ได้รับจากการใส่ร้าย
ขั้นตอนที่ 8
หาอัตราส่วนรายได้แต่ละประเภทในจำนวนเงินที่ได้รับ กระจายต้นทุนทั้งหมดระหว่างโหมดตามสัดส่วนของสัมประสิทธิ์ที่คำนวณได้